วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Review App Photo collage

Review App Photo collage

 วันนี้มา รีวิว Photo collage วิธีการติดตั้ว การใช้งาน Photo collage ว่ามีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างคร่าว ๆ นะครับ เรามาดูการติดตั้งกันเลย (เป็นของ Android)


การติดตั้ง App
1.เข้า PlayStore แล้วพิมพ์ Photo collage(ผมโหลดอันที่ 2)
2.กดโหลดติดตั้ง และ ดาวน์โหลด
รอดาวน์โหลดเสร็จ

3.เมื่อดาวน์โหลดเสร็จ แล้วกด เปิด

การใช้งานเบื้องต้น

4.หน้าตาของโปรแกรมจะเป็นแบบนี้

5.เมนูแรก Grid ใช้ตกแต่งรูป แก้ไข จัดรูป ฯ เมื่อกดเข้ามาแล้วก็เลือกรูป


6.นี้คือการ จัดขนาดรูป + วาง จัดได้แบบอิสระ

7.ใส่กรอบ

8.ใส่ข้อความ,สี,ฟอนต์ ฯ

9.เพื่มเฟรมใส่หลายรูป + สติ๊กเกอร์

10.กด Save ที่ขวาบน แล้วเลือกความละเอียดของภาพ

เแต่งเสร็จแล้ว

11.เมนูต่อไป  PhotoEffects มีให้เลือกมากมาย 
12.การใช้ Effects โดยการลากไปที่เราต้องการ
แต่งเสร็จแล้ว ออกมาเป็นแบบนี้


วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Review App Camera 360

Review App Camera 360

     วันนี้มา รีวิว Camera 360 วิธีการใช้งาน Camera 360 ว่ามีอะไรบ้าง สามารถพลิกแพลงนำไปทำอะไรได้บ้าง เพราะแค่ฟิลเตอร์และลูกเล่นที่มีมานั้น ก็เยอะมากๆเลยทีเดียว

การติดตั้ง App

1.เข้า PlayStore แล้วพิมพ์ Camera 360
2.กด ติดตั้ง

3.กดยอมรับเพื่อติดตั้ง
4.รอดาวน์โหลด และ ติดตั้งเสร็จ
5.กดเปิด
6.เมนูแรกเป็น Camera

7.ภาพตัวอย่าง

8.เมนูที่ 2 Selfie
9.ภาพตัวอย่าง
10.เมนูที่ 3 Album ไว้ดูรูปภาพที่เราถ่าย - แต่ง




ปล.เป็นการรีวิวแบบหยาบ ๆ เท่านั้นเพื่อส่งอาจารย์.




วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Review dtac eagle blade 4G

Review dtac eagle blade 4G


          Dtac เปิดตัวดีแทคโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด “อีเกิ้ล เบลด” (Eagle Blade) เน้นฟีเจอร์เพื่อการเซลฟี่โดยเฉพาะด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพเซลฟี่อัตโนมัติ V selfie เมื่อทำท่าการชู 2 นิ้ว หรือการทำท่าอื่นที่เป็นตัว V กล้องจะจับการเคลื่อนไหวและเปิดใช้ตัวจับเวลาเพื่อถ่ายเซลฟี่ทันที
มาพร้อมแฟลชกล้องหน้าทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่โดยไม่ใช้มือง่ายดาย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยดีแทคโฟน “อีเกิ้ล เบลด” ตอกย้ำคอนเซปต์ “สเปคสูงกว่า ราคาเบาๆ” บุกตลาดสมาร์ทโฟนทั่วประเทศออกรุ่นที่รองรับการใช้งานทั้ง 4G และ 3G แบ่งเป็น
  • Eagle Blade รองรับ 4G รุ่น 16 GB เพียง 5,390 บาท (รวม VAT)
  • Eagle Blade รองรับ 4G รุ่น 8 GB เพียง 4,390 บาท (รวม VAT)
  • Eagle Bladeรองรับ 3G เพียง 3,690 บาท (รวม VAT)
รับประกันเครื่องนาน 15 เดือน พร้อมมอบโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าระบบเติมเงินให้ค่าโทรและค่าเน็ต เท่าค่าเครื่อง มูลค่าสูงสุดถึง 5,400 บาท พร้อมให้เล่นฟรี 10 แอพพลิเคชั่นยอดนิยม LINE, Facebook, Instagram, Facebook Messenger, Twitter, Whatsapp, Wechat, Beetalk, Pantip และ Kakao นานถึง 10 เดือน เมื่อเติมเงินเดือนละ 150 บาทขึ้นไป
สำหรับลูกค้าระบบรายเดือน มาพร้อมแพ็กเกจเลิฟแอนด์โรว์ นอนสต็อป (Love & Roll Non-Stop) ให้เล่นเน็ตได้ไม่มีหยุด ใช้ไม่หมดทบไปได้ พร้อมโทรฟรีทุกเครือข่าย ดีแทคโฟน อีเกิ้ล เบลด วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ ศูนย์บริการดีแทคทุกสาขาทั่วประเทศ และร้านมือถือทั่วประเทศ และสามารถช๊อปปิ้งออนไลน์ได้ที่ http://store.dtac.co.th/ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th

รายละเอียดดีแทคโฟน"Eagle Blade"



อีเกิ้ล เบลด รองรับ 4G
คลื่น 2100MHz และคลื่น 1800MHz สเปคสูงกว่า ราคาเบาๆ รุ่น 16 GB เพียง 5,390 บาท (รวม VAT) สีโซลิดโกลด์ และ รุ่น 8 GB เพียง 4,390 บาท (รวม VAT) มีให้เลือก 2 สีแชมเปญโกลด์ และ สีเมทัลเกรย์
  • หน้าจอขนาด 5.0นิ้ว มาพร้อมกับจอแสดงผลความคมชัดระดับ HD IPS (1280×800) ขอบโค้งมนด้วยกระจกแบบ 2.5D
  • ระบบประมวลผล MT6735P Quad Core 1.0GHz (64 Bit) ที่ทำให้เครื่องเร็ว แรง ลื่นไหล
  • Ram 1GB / Rom 8GB หรือ Ram 2GB / Rom 16GB รองรับ MicroSD สูงสุด 32GB
  • ความละเอียดกล้องหลัง 8ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED , ความละเอียดกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชหน้า และเซ็นเซอร์กล้องจาก Samsung
  • รองรับการใช้งาน 2ซิม
  • แบตเตอรี่ 2,200mAh
  • ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่น Android 5.1 (Lollipop)
  • ฟรี case และฟิล์มติดหน้าจอ
  • กดรับสิทธิ์โปรโมชั่นแฮปปี้ ค่าโทรและค่าเน็ต เท่าค่าเครื่อง สำหรับรุ่น 8G กด *399*202# โทรออก สำหรับรุ่น 16G กด *399*203# โทรออก



วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ระบบปฏิบัติการ Android.


ระบบปฏิบัติการ Android
          หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบ เทคโนโลยี รวมถึง เป็นคนที่ใช้งานสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว ก็คงจะคุ้นเคยกับคำว่า แอนดรอยด์ (Android) เป็นอย่างดี ซึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบันนั้น แอนดรอยด์ ถือเป็นอีกหนึ่งระบบปฏิบัติการในตลาด ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ไม่แพ้กับระบบปฏิบัติการอื่นๆ ซึ่งในวันนี้ ทีมงานได้รวบรวมเอาข้อมูล ที่อาจจะช่วยให้ หลายๆท่านที่กำลังสนใจนั้น ได้รู้จักกับ ระบบปฏิบัติการตัวนี้กันมากขึ้น ว่า แอนดรอยด์?คืออะไร และ ทำอะไรได้บ้าง ลองมาชมกันเลยครับ

แอนดรอยด์ (Android) คืออะไร?


          วิธีที่จะเข้าใจว่า Android(แอนดรอยด์) คืออะไร? อย่างง่ายๆ ให้เราลองนึกถึง คอมพิวเตอร์ที่บ้านครับ ตอนนี้ใช้ Windows อะไรอยู่ครับ บางคนก็จะตอบว่า Windows 7, Windows Vista บางคนก็ตอบว่า Windows XP หรือบางคนอาจจะตอบว่า ผมไม่ใช้ Windows ผมใช้ Linux ซึ่งจะเป็น Linux รุ่นไหนก็ว่ากันไป … Windows หรือ Linux เราเรียกมันว่า ระบบปฏิบัติการ(OS) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าถ้าคอมพิวเตอร์ไม่ลง Windows ก็จะเปิดเครื่องเพื่อทำงานไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น โทรศัพท์มือถือ SmartPhone ก็เช่นเดียวกันครับ มันต้องการ OS ซึ่งใน iPhone นั้นบริษัทแอปเปิ้ลใช้ OS ที่ชื่อว่า iPhone OS ครับ ในขณะที่บริษัทกูเกิ้ล(Google) บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที อีกรายก็ได้ซุ่มพัฒนา OS ที่มีชื่อว่า Android(แอนดรอยด์) OS ขึ้นมา ซึ่ง Android(แอนดรอยด์) เวอร์ชั่น 1.0 ได้ถูกปล่อยออกมาใช้งานอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน ค.ศ 2008


คู่แข่ง iPhone?

          วงการมือถือในปัจจุบันมีโทรศัพท์กลุ่มที่เรียกว่า SmartPhone ซึ่งคือมือถือที่ทำอะไรได้มากกว่า โทรเข้า-ออกโดยสามารถเข้าถึงบริการต่างๆบนอินเตอร์เน็ตผ่าน App(แอพลิเคชั่น หรือโปรแกรม)บน Smartphone ทำให้โทรศัพท์มือถือในกลุ่ม SmartPhone เป็นอะไรที่ดึงดูดผู้ใช้งานมือถือที่ต้องการอะไรที่ใหม่ๆ เข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร และเกิด LifeStyle ใหม่ๆ ซึ่งในปัจจุบัน เจ้าตลาด SmartPhone คือ iPhone ของบริษัทแอปเปิ้ล ที่โด่งดังมาตลอดในช่าม 3-5 ปีที่ผ่านมา โดยยังไม่มีใครมาทาบรัศมีได้.. แต่แล้วในปีนี้เราเริ่มจะเห็นมือถือหลายรุ่นที่มีหน้าตาการทำงานคล้ายกัน และมีความสามารถที่ทัดเทียมกับ iPhone และในบางกระแสบอกว่า ความสามารถของเจ้ามือถือนี้ ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า iPhone เสียอีก… ผู้คนเรียกขานเจ้ามือถือหลายรุ่น หลายยี่ห้อ แต่มีหน้าตาการทำงานที่เหมือนกันนี้ว่า “Android(แอนดรอยด์) Phone”

ต้นกำเนิด แอนดรอยด์ (Android)



          ย้อนไปเมื่อประมาณ เดือน ตุลาคม ปี 2003 Andy Rubin ได้ก่อตั้งบริษัท แอนดรอยด์ (Android, Inc.) พร้อมกับเพื่อนร่วมงานที่ถือว่ามีความสามารถแตกต่างกันออกไปในแต่ละด้าน ร่วมกันพัฒนามาเรื่อยจนเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2550 โทรศัพท์มือถือรุ่นแรก ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ ก็ได้ออกวางจำหน่าย ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ คือ HTC Dream

Android 4.0 หรือ Android 4.1? ตัวเลขข้างหลังคืออะไร? เพื่ออะไร?



         Android(แอนดรอยด์) 4.0 เป็นหมายเลขเวอร์ชั่นของ ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ ครับ เหมือนที่ Windows มีทั้ง Windows95, Windows 2000, Windows XP, Windows Vista ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเวอร์ชั่นที่พัฒนาต่อๆกันมาของ Windows ครับ ใน Android OS เองก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ตอนนี้ Android OS มีทั้งหมด 10 เวอร์ชั่นแล้วครับและมีชื่อเล่นสำหรับเรียกง่ายๆด้วยครับ


ซึ่ง ก็ได้แก่ Apple Pie(Android 1.0),Banana Bread(Android 1.1),CupCake(Android 1.5), Donut(Android 1.6), Éclair(Android 2.1), Froyo(Android 2.2), Gingerbread(Android 2.3), Honeycomb(Android 3.0), Ice Cream Sandwich(Android 4.0), Jelly Bean (Android 4.1) จะสังเกตุเห็นได้ว่า ชื่อรุ่นทุกรุ่นเป็นของหวานทั้งหมดเลยครับ และในรุ่น Android ที่จะพัฒนาในอนาคตซึ่งยังไม่มีการกำหนดเลขเวอร์ชั่นก็จะมีชื่อว่า Key lime pie อีกด้วย.. แค่อ่านชื่อก็อิ่มแล้ว..


เวอร์ชั่นของ Android OS


          เนื่องจาก Android(แอนดรอยด์) Phone  เป็นมือถือที่มีส่วนประกอบของ ระบบปฏิบัติการเป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นการเลือกซื้อ Android Phone จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึง เวอร์ชั่นของ Android(แอนดรอยด์) OS ที่เราต้องการด้วยครับ ซึ่งเมื่อไปที่ร้านมือถือตั้งใจจะซื้อ Android Phone สักเครื่อง แต่แล้วเราก็จะมึนงง เพราะว่ามือถือAndroid Phone แต่ละยี่ห้อใช้ Android คนละเวอร์ชั่นแล้วเราจะเลือกยังไงกันดี แล้วเราต้องใช้รุ่นไหนยังไง.. Android Phone รุ่นไหนคุ้มไม่คุ้มยังไง… ความมืดแปดด้านของการเลือก Android Phone ก็เริ่มครอบงำเรา… งั้นเรามาดูรายละเอียดว่า Android(แอนดรอยด์) OS แต่ละรุ่นมีความสามารถอะไรกันบ้างดีกว่าครับ เราจะได้รู้ว่า โทรศัพท์ Android Phone รุ่นที่เราเล็งอยู่นั้น มันทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้บ้าง.


แม้ว่าเวอร์ชั่น Android ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 5.0 แต่ในความเป็นจริงระบบ Android ได้ออกอัพเดทระบบมาแล้วทั้งหมด 20 รุ่น และแต่ละรุ่นก็จะมีชื่อเรียกเป็นขนมหวานเรียงตามอีกษรภาษาอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันได้เดินทางมาถึง

Android 1.0

ระบบ Android เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเดือนกันยายน 2551 สมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ใช้ Android ก็คือ HTC Dream สเปคคร่าวๆ หน้าจอ 3.2 นิ้ว ซีพียู 528 MHz แรม  256 MB ..ที่คือสเปค Android เครื่องแรกของโลกนะ
ฟังชั่นการใช้งาน Android สมัยนั้นมีเพียงการใช้งานพื้นที่ฐานที่ครบครัน เช่น โหลดแอพจากมาเก็ต ท่องเว็บ ถ่ายรูป รับส่งอีเมล์ ดุแผนที่ ตั้งนาฬิกาปลุก และบริการอื่นๆจาก Google

Android 1.1

ต่อมามีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 เพิ่มฟังชั่นเข้ามาเล็กน้อย เช่น บันทึกสิ่งที่แนบในข้อความ รายละเอียดของสถานในแผนที่มีมากขึ้น

Android 1.5 Cupcake

เป็นครั้งแรกที่ Android มีชื่อเล่นอย่างเป็นทางการนั่นก็คือ Cupcake เป็นชื่อขนม และ Android รุ่นต่อๆมาก็เป็นชื่อขนมหมด รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อ เมษายน 2552
Android เวอร์ชั่นนี้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่มามากมาย เช่น อัพโหลดวิดีโอขึ้น YouTube ได้, รองรับวิดเจ็ต, รองรับแอพคีย์บอร์ด ฯลฯ

Android 1.6 Donut

ผมเพิ่งจะมาใช้มือถือ Android ครั้งแรกก็คือรุ่นนี้แหล่ะ ส่วนเครื่องแรกที่ผมใช้ก็คือ Wellcom a66 รุ่นนี้จัดว่าเป็นตำนานเลยนะ เพราะทำออกมาได้ลื่นมาก ใครๆก็ชมว่าลื่นเกือบเท่า iPhone
สำหรับ Android รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อ กันยายน 2552 มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น สามารถค้นหารายการด้วยเสียง รับฟังเสียงได้หลายภาษา เลือกรูปที่จะลบได้หลายรูป ปรับปรุงความเร็วกล้อง เป็นต้น

Android 2.0 Eclair

Android รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2552 หากกับรุ่นก่อนแค่เดือนเดียว แต่มีฟีเจอร์มากมาย เช่น รองรับบลูทูธ 2.1 แป้นพิมพ์มีระบบเดาคำอัจฉริยะ ใช้ภาพพื้นหลังเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ ฯลฯ
แต่ Android รุ่นนี้มีให้อัพเดทเฉพาะในอเมริกาเท่านั้น

Android 2.0.1 Eclair

เปิดตัว ธันวาคม 2552 เป็นรุ่นแก้บั๊กเฉยๆ

Android 2.1 Eclair

เปิดตัว มกราคม 2553 เป็นรุ่นแก้บั๊กเช่นกัน แต่รุ่นนี้มีให้อัพเดทกันทั่วโลก
Android OS

Android 2.2 Froyo

เปิดตัวเดือนพฤษภาคม 2553 นี่คือ Android ที่มีการเปลี่ยนแปลงจนทำให้ระบบมีความน่าใช้ขึ้นมาก การทำงานของเครื่องเร็วขึ้น แชร์ไวไฟให้เพื่อนได้ และฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่สุดคือ “รองรับหน้าจอขนาด 4 นิ้ว” ทำให้ Android รุ่นหลังๆเริ่มมีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น

Android 2.3 gingerbread

เปิดตัเดือนธันวาคม 2553 รุ่นนี้มีการปรับหน้าตาการใช้งานให้ดูทันสมัยมากขึ้น รองรับหน้าจอขนาดใหญ่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ เป็นต้น

Android 2.3.3 gingerbread

เปิดตัวกุมภาพันธ์ 2554 ความเปลี่ยนแปลงของรุ่นนี้คือรองรับวิดีโอคอล รองรับ 4G ปรับปรุงกล้อง และแก้บั๊กต่างๆ

Android 3.0 Honeycomb

เปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ 2554 รุ่นนี้ใช้สำหรับ “แท็บเลท” เท่านั้น และแท็บเลทที่เป็นทางการรุ่นแรกของ Android ก็คือ Motorola Xoom
ฟีเจอร์ที่เพิ่มมาใหม่ เช่น มัลติทาส์กกิงแบบใหม่ ดูรูปภาพได้ในโหมดเต็มจอ รองรับการทำงานด้วยซีพียูหลายแกน ฯลฯ

Android 3.1 Honeycomb

เปิดตัวเดือนพฤษภาคม 2554 มีฟีเจอร์ใหม่ เช่น รองรับจอยสติก รองรับพร็อกซีเอชทีทีพี สามารถปรับขนาดวิดเจ็ตบนหน้าหลักได้ เป็นต้น

Android 3.2 Honeycomb

เปิดตัวเดือนกรกฎาคม 2554 รุ่นนี้เน้นการแก้ไขระบบ แต่ก็มีฟีเจอร์ใหม่ๆบ้าง เช่น รองรับแฟลชในเว็บเบราว์เซอร์ สามารถอัพเดทแอพได้แบบอัตโนมัติ เป็นต้น

Android 4.0 Ice cream sandwich

เปิดตัวเดือนตุลาคม 2554 ผมว่ารุ่นนี้คือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Android เพราะเป็นระบบที่รองรับทั้งแท็บเลทและมือถือ หน้าตาของระบบดูทันสมัยพอๆกับ iOS ก่อนหน้านี้ให้พูดถึง UI ของ Android ผมว่าเป็นอะไรที่โบราณมากหากเทียบกับคู่แข่ง
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ปรับแต่งหน้าโฮมได้ละเอียดมากขึ้น สามารถปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า(แต่ฟีเจอร์นี้โครตแป๊ก เพราะถ้าเป็นที่แสงน้อยก็ต้องใช้รหัสผ่านเหมือนเดิม) กล้องถ่ายภาพแบบพาโนรามาได้ มีไวไฟไดเรก บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 1080p เป็นต้น

Android 4.0.3 Ice cream sandwich

เปิดตัวเดือนธันวาคม 2554 เป็นรุ่นที่เน้นการแก้บั๊ก
Android OS

Android 4.1 jellybean

เปิดตัวเดือนกรกฎาคม 2555 Android รุ่นนี้มีการปรับปรุงการทำงานหลายอย่าง เช่น ใช้คำสั่งเสียงออฟไลน์, ปรับปรุงแอพกล้องถ่ายรูป, สามารถปิดการแจ้งเตือนเป็นรายแอพ เป็นต้น

Android 4.2 jellybean

เปิดตัวเดือนพฤศจิกายน 2555 ฟีเจอร์เด่นของ Android รุ่นนี้คือ ถ่ายภาพแบบ Photo Sphere (หมุน 360 องศา) ส่งข้อความแบบกลุ่ม รองรับบัญชีผู้ใช้หลายบัญชี เป็นต้น

Android 4.3 jellybean

เปิดตัวเดือนกรกฎาคม 2556 ผ่านมา 1 ปีแล้วแต่ยังคงใช้ชื่อ jellybean สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น รองรับอัตราส่วน 4K, รองรับภาษาที่เขียนจากขวาไปซ้าย,เปลี่ยนหน้าตาของแอปกล้องใหม่ เป็นต้น
Android OS

Android 4.4 KitKat

เปิดตัวเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 เป็นครั้งแรกที่ใช้ชื่อขนทหวานเป็นยี่ห้อขนม แม้ว่ารูปแบบโดยรวมจะดูไม่ต่างกันกับรุ่น jellybean เท่าไหร่ สิ่งที่น่าสนใจของรุ่นนี้คือ “รันไทม์ใหม่” เป็นแบบ ART ทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
Android OS

Android 5.0 Lollipop

เปิดตัวเดือนพฤศจิกายน 2557 รุ่นนี้นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของระบบ Android เพราะมีการออกแบบ UI ใหม่ ไม่ดูแข็งมืดเหมิอนที่ผ่านมา (หลายคนชมว่าสวยกว่า iOS) ระบบก็ไหลลื่นขึ้นมาก
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น แถบแจ้งเตือนแบบใหม่ มัลติทาสก์ที่ดูไฮโซมากขึ้น เพิ่มผู้ใช้งานได้หลายบัญชี โหมดตรึงหน้าจอ เป็นต้น

Android 6.0 Marshmallow

เปิดตัวเดือนพฤษภาคม 2558 ยังไม่มีเลขรุ่นและชื่อเล่นอย่างเป็นทางการ Android รุ่นนี้เน้นทำให้ระบบมีประสิทธิภาพและการใช้งานที่คล่องตัวมากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ๆก็พอมีบ้าง เช่น Dark Mode, ระบบจ่ายเงิน Android Pay, สแกนลายนิ้วมือ, Multi-windows เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

WebCam on Raspberry pi with Motion

WebCam on Raspberry pi with Motion
          
            บน Linux สามารถที่จะทำ Streaming Media Server ที่เอาไว้สตรีมข้อมูลภาพและเสียงไปยังผู้รับได้หลายโปรแกรม อย่างที่ผมเคยใช้มาก็จะเป็น Red5 ซึ่งก็เป็นโอเพ่นซอร์สที่เราสามารถเอามาใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ด้วยกำลังของเซิร์ฟเวอร์ที่มีอาจจะไม่สามารถรับโหลดหนักๆ ได้เหมือนผู้ให้บริการที่ทำด้านนี้โดยเฉพาะ แต่ก็น่าจะพอที่จะเอามาไว้ทำเล่นภายในกลุ่มเล็กๆได้สำหรับ Raspberry Pi เราจะใช้โปรแกรม Motion ซึ่งจะทำการสตรีมข้อมูลจากกล้องเว็บแคมไปแสดงผลที่เว็บบราวเซอร์ เราสามารถประยุกต์เอาไปใช้ทำเป็นกล้อง CCTV เพื่อเอาไว้ดูบ้านเวลาที่เราไม่อยู่บ้านก็ได้
อย่างแรกต่อเว็บแคมกับ Raspberry Pi ให้เรียบร้อย
(รูปภาพจาก https://www.unzeen.com/article/2227/ )

ทำการติดตั้งโปรแกรม Motion โดยใช้คำสั่ง

sudo apt-get install motion

(เนื่องจากได้ติดตั้งโปรแกรมไว้แล้วจึงขึ้นแบบนี้)
           และเหมือนเดิมถ้าหากว่าติดตั้งไม่ได้ หรือเกิดมี Error ขึ้นมา ให้ลองทำการอัพเดทแพคเกจ และลองใหม่อีกครั้งนะครับ

sudo apt-get update
sudo apt-get upgrade

ทำการแก้ไขไฟล์คอนฟิกของ Motion ที่ /etc/motion/motion.conf

sudo nano /etc/motion/motion.conf

โดยให้ทำการแก้ไขข้อมูลต่างๆ ในไฟล์เป็นดังนี้ครับ
daemon on
webcam_localhost off
control_localhost off
webcam กับ control  จะอยู่หน้าหลัง ๆ โดยการกด Ctrl + v และ Ctrl + y
ต่อไปทำการแก้ไข /etc/default/motion เพื่อกำหนดให้โปรแกรม Motion ทำงานเป็น Daemon Service ได้
sudo nano /etc/default/motion
โดยให้ทำการแก้ไขบรรทัด start_motion_daemon=no ให้เปลียนเป็น start_motion_daemon=yes
start_motion_daemon=yes
จากนั้นสั่ง Start Motion Server ขึ้นมาได้เลยครับ
sudo service motion start
เรียบร้อยแล้วครับ
โปรแกรม LVC media player
ดาวน์โหดลโปรแกรมจาก http://www.videolan.org/vlc/download-windows.html แล้วกดตามภาพ
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จให้ ดับเบิ้ลคลิก แล้วเลือกภาษาที่ต้องการ จากนั้น กดต่อไป
เมื่อติดตั้งเสร็จจะได้ หน้าตาโปรแกรมแบบนี้
เปิดโปรแกรม VLC Media Player และเข้าไปที่เมนู สื่อ แล้วเข้าไปที่ เปิดกระแสเครือข่าย..
พิมพ์ URL ที่โปรแกรม motion สตรีมข้อมูลออกมา ในทีนี้คือ http://10.0.2.89:8081 จากนั้นกด เล่น
เมื่อเข้าได้สำเร็จก็จะได้แบบนี้ครับ
ขอบคุณครับ