วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Angry IP Scanner + Putty ใช้งานกับ Raspberry Pi

Angry IP Scanner


              หากใครกำลังมองหาโปรแกรมที่สามารถดูไอพีภายในวงแลนได้ และช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาไอพีภายในองค์กรของตัวเอง เรามีโปรแกรมเครือข่าย ที่มีนามว่า โปรแกรม Angry IP scanner มานำเสนอ สำหรับโปรแกรมนี้เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ผู้ดูแลระบบเครือข่ายไม่ควรพลาดที่จะติดตั้งเอาไว้ ด้วยการทำงานที่แสนจะง่าย ใช้เวลารวดเร็วในการสแกนหาไอพีทั้งหมดภายในองค์กร หรือค้นหาแบบกำหนดเองก็ได้ อาทิเช่น กำหนดโดยช่วงของไอพี (IP Range) จากหมายเลขอะไรถึงหมายเลขอะไร แบบนี้เป็นต้น โดยมันจะสามารถรู้ได้แบบสดๆ เรียลไทม์เดี๋ยวนั้นเลยว่า แต่ละเครื่องที่สแกนไอพีออกมา กำลังใช้งาน หรือมีการรับส่งข้อมูลอะไรอยู่บ้าง โดยข้อมูลที่จะแสดงออกมามีค่าปิง (Ping) ชื่อโฮสต์ (Hostname) พอร์ต (Port) ที่กำลังทำการเชื่อมต่อ และ ตรวจสอบได้ว่ากำลังเข้าเว็บอะไรอยู่ (Web Detect)

Putty


          Putty เป็นโปรแกรม Remote Server หรือ SSH ( Secure Shell ) พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ เราสามารถใช้โปรแกรมนี้ในการ สั่งงาน Server ด้วย command line โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เชื่อมต่อไปยัง server ที่เป็น linux รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบดังนี้
  • Raw
  • Telnet
  • Rlogin
  • SSH
  • Serial

การใช้งาน
          โปรแกรมสามารถ ดาวน์โหลด  แล้วติดตั้งได้เลย เมื่อโหลดและติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว หน้าตาของโปรแกรมจะเป็นแบบนี้


          จากนั้นกำหนดวง IP ที่ต้องการสแกนแล้วกด Start เพื่อสแกน


          รอโปรแกรมสแกนเสร็จ จะได้ IP ที่ต้องการ


IP ของ Raspberry Pi ที่เราต้องการ คือ 10.0.0.195
          จากนั้นเปิดโปรแกรม Putty ขึ้นมาแล้วใส่ IP Raspberry Pi ที่้เราได้มาจากโปรแกรม Angry IP Scanner กด Openn


          ใส่รหัสการเข้าใช้ของ Raspberry pi แล้วกด Enter


          เสร็จแล้วครับ

ที่มา(https://www.thitiblog.com/blog/1733)

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การใช้งาน Secure Shell , การใช้งาน Putty เบื้องต้น





การใช้งาน Secure Shell ในการเข้าถึงระบบจากระยะไกล

SSH , SFTP และ SCP คืออะไร
          Secure Shell (SSH) เป็นโพรโตคอลในการสร้างการติดต่อเพื่อเข้าใช้งานระบบอย่างปลอดภัยมากกว่าการติดต่อแบบเดิมๆเพียงตัวอักษรเปล่าๆ(Plain text) โดยที่โพรโตคอลดังกล่าวจะทำการเข้ารหัสข้อมูลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลอื่นๆก่อนที่จะทำการส่งไปยังเครื่องเซิร์ฟเวอร์ โดยปกตินิยมนำ SSH มาใช้งานแทน telnet เพราะมีความปลอดภัยมากกว่า
          Secure File Transfer Protocol (SFTP) เป็นโพรโตคอลที่นำมาใช้แทน FTP โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของ SSH ซึ่งจะมี sftpserv เป็นโปรแกรมที่รันอยู่ที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ รอรับการติดต่อจากไคลเอ็นต์ผ่านทางคำสั่ง sftp บนระบบปฎิบัติการ linux และในระบบปฎิบัติการ windows ก็มีโปรแกรมที่จะใช้สำหรับติดต่อและโอนถ่ายข้อมูลกับเซิร์ฟเวอร์ผ่าน SSH ด้วย เช่น SecureFX และ SSH Secure Shell Client
           Secure Copy (SCP) เป็นวิธีการหนึ่งในการรับส่งข้อมูลข้ามระบบเครืองข่าย โดยมีลักษณะเป็นการคัดลอกข้อมูลระหว่าง 2 เครื่อง และอาศัยโพรโตคอล Secure Shell เช่นเดียวกับ SFTP จะต้อง Login เข้าไปที่ระบบก่อนแล้วจึงสามารถที่จะรับส่งไฟล์ได้แต่ SCP นั้นจะป้อนรหัสผ่านทุกครั้งที่ทำการรับส่งไฟล์

ทำไมต้องใช้ SSH
           วิธีการส่วนมากที่ผู้โจมตีใช้กันคือการดักขโมยข้อมูลระหว่างไคลเอ็นต์และเซิร์ฟเวอร์ผ่านทางโัพรโตคอล telnet ซึ่งข้อมูลที่ดักได้อาจจะเป็นชื่อที่ใช้ Login และรหัสผ่านที่ไม่ได้ถูกเข้ารหัสไว้ โดยใช้โปรแกรมประเภม Sniffer ทั้วๆไป ดังรูปที่ 1 และถ้าเกิดกรณีที่ผู้โจมตีดักขโมยชื่อผู้ใช้คือ root และ รหัสผ่าน ความเสียหายที่ตามมาอาจมากจนเกิดที่จะแก้ไขได้
           ดังนั่นวิธีการแก้ไขคือ ยกเลิกการใช้งานโพรโตคอล SSH แทน และใช้ SFTP แทนโพรโตคอล FTP ทั้งนี้เพิ่อความปลอดุภัย จากการถูดังข้อมูลขณะทำการส่ง ดังรูปที่ 2
รูปที่ 1 แสดงผลจากการใช้ telnet ในการทำ remote access ไปยังเซิร์ฟเวอร์และผู้โจมตีสามารถดักข้อมูลได้

รูปที่ 2 แสดงผลจากการใช้ ssh จะสังเกตว่ารหัสผ่านที่ส่งจากไคลเอ็นต์นั้นจะถูกเข้ารหัสไว้


การใช้งาน Putty เบื้องต้น


Putty คืออะไร?

          Putty เป็นโปรแกรม Remote Server หรือ SSH ( Secure Shell ) พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ เราสามารถใช้โปรแกรมนี้ในการ สั่งงาน Server ด้วย command line โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เชื่อมต่อไปยัง server ที่เป็น linux รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบดังนี้
  • Raw
  • Telnet
  • Rlogin
  • SSH
  • Serial

วิธีใช้งาน putty เบื้องต้น

เริ่มแรกโหลดโปรแกรมที่ download putty เมื่อ download มาแล้วสามารถรันโปรแกรมได้ทันทีไม่ต้องติดตั้ง
โปรแกรมจะมีหน้าตาประมาณนี้

การใช้งาน-putty-เบื้องต้น
การใช้งาน-putty-เบื้องต้น

วิธีการใช้งานไม่ยากครับ หลักๆก็จะมีอยู่สามส่วนที่เราสนใจ
  1. คือการ config ว่าเราจะเชื่อต่อไปยัง server ip อะไร และ port อะไร
  2. คือการ เลือกประเภทของการเชื่อมต่อ
  3. คือส่วนของการบันทึกค่าที่เรา config ไว้ เพื่อเพิ่มความสะดวก เมื่อเรามาใช้งานครั้งต่อไปไม่ต้องมา config ใหม่
เมื่อเรารู้แล้วว่าแต่ละส่วนมันคืออะไร เวลาใช้งานจริงเราสามารถใส่ ip และ port ของ server ที่เราจะเชื่อมต่อ แล้วกด ปุ่ม open ได้เลยครับ
ถ้าเราต้องการบันทึกค่าที่เรา config ไว้ ก็สามารถมาจัดการตรงส่วนที่สามได้เลยครับ
ที่มา(https://www.thitiblog.com/blog/1733)
ที่มา(http://www.itmanage.info/technology/linux/ssh_config_and_using.htm)l

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560

CDHT11 Humitdity and Temperature Sensor

CDHT11 Humitdity and Temperature Sensor

       วันนี้จะมานำเสนอการใช้งาน Module เล็กๆ สีฟ้า  DHT11 (DHT11 Humitdity and Temperature Sensor กับบอร์ด Ardiono)ที่ใช้ในการวัดอุณหภูมิกับความชื่นในอากาศกันกครับ 

CODE


ทดสอบ
การต่อขาจากบอร์ด NODE MCU กับ DHT11 Humidity
ทดลองทำให้อุณหภูมิเปลี่ยน
ผลลัพธ์

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2559

Client / Server(STA mode / Web Server)

Client / Server(STA mode / Web Server)

NodeMCUทางานใน STA Mode
•ปรับแต่งชุดคาสั่งในเรื่อง Direct WiFiโดยเพิ่มส่วนของการเชื่อมต่อไปยัง Access Point (ต้องมีการ Authentication)
•File –> Examples –> ESP8266WiFi –> WiFiClient(แก้ไข)
•มีการสร้าง Web Server (port 80) ในตัว NodeMCU


กดปุ่มเพื่อเปิด - ปิด ไฟ LED ผ่าน Access point

Direct WiFi(AP) และ Client/Server (STA)



เข้าปิด-เปิดไฟแบบ AP ในตัว NODE เข้าที่ 192.168.4.1/led.php
เข้าปิด-เปิดไฟแบบ Client / Server เข้าไปที่ 192.168.88.250/led.php 

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

PRTG Network Monitor

PRTG Network Monitor




สำหรับหลายๆคน คงจะมีอุปกรณ์ IT หลายตัว หรือว่ามี Home network เล็กๆ ไว้ใช้งานในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง ADSL Router หรือตั้ง PC ไว้โหลดบิต หรือมี Network Access Storage ไว้แชร์ไฟล์ หรือแม้กระทั่งดูหนังHD ผ่าน Network (เดี๋ยวนี้ TV รุ่นใหม่ๆ ก็เล่นเน็ต หรือดูหนัง HD ผ่าน LAN ได้แล้วครับ) เป็นต้น บางครั้งเราก็อยาก Monitor ปริมาณ Bandwidth ของ Internet หรือ Network หรืออยากดูว่า


สถานะของอุปกรณ์ของเราอยู่ในสภาพปกติหรือเปล่า




วิธีการติดตั้ง
1.กดคลิกติดตั้ง แล้วเลือก I accept the agreement จากนั้น กด Next >
2.จากนั้นใส่ Email แล้วกด Next >
3.ทำการใส่ License Key โดยกดที่  CLICK HERE to request .... แล้วจะพาเข้าเว็บเพื่อเอา License แล้วนำมาใส่
4.เลือกที่จัดเก็บเพื่อติดตั้งโปรแกรมแล้วกด Next >
5.รอโปรแกรมติดตั้งเสร็จ
6.เมื่อติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว


โปรแกรม PRTG Network Monitor เป็น Tool ที่ช่วยให้เราสามารถ Monitor สิ่งที่ผมได้กล่าวไว้ตอนต้นได้หมดเลยครับ ด้วยการ Monitor ที่โปรโตคอล SNMP และยัง Monitor อย่างอื่นได้อีกมากมาย เช่นการ Monitorเครื่องคอมพิวเตอร์ (ทั้งเครื่องตัวเอง และเครื่องบน network) ด้วย WMI และอื่นๆอีกหลายอย่างครับ ตามไปดูกันเลยครับ

1.เมื่อเข้ามาแล้ว เราต้องทำการเพิ่ม Device ก่อนอันดับแรก และภายใน Device นั้น เราก็จะสามารถเพิ่มSensor สำหรับ Device นั้นๆได้ เช่น Router จะสามารถเพิ่ม Sensor สำหรับการ Ping หรือ SNMP สำหรับ ดู Traffic ได้ หรือเครื่อง PC ก็จะดู CPU ได้ ดู Memory ได้ เป็นต้น

ข้อดี

1. หน้าจอสวยงาม ใช้งานง่าย มีระบบ Auto discover ด้วย ซึ่งจะสแกนอุปกรณ์ให้เราแบบอัตโนมัติว่าเรา Monitorอะไรได้บ้าง
2. ทำงานได้เร็ว กินทรัพยากรน้อยมาก
3. รองรับ Protocol ได้หลากหลาย
4. ถึงแม้จะเป็น Free Version แต่ก็สามารถใช้ได้ถึง 10 Sensor ซึ่งนับว่าดีมากๆเลย เหมาะกับใช้งานแบบPersonal
5. สามารถกำหนดรูปแบบของการ Notification ได้หลากหลายรูปแบบ แม้กระทั่งการส่ง MSN!!
6. มี API ให้ด้วย

ข้อเสีย
1. กราฟ ไม่สามารถซูมได้ถึงหน่วยนาที (ได้แค่ นาที)
2. การ Sensor ด้วย WMI ต้องทำการ set ที่เครื่อง Windows ปลายทางก่อน ค่อนข้างยุ่งยาก
3. เมื่อมีการ Notification ด้วย MSN จะทำให้ MSN ที่เรา Online อยู่ โดน sign out ออกเลยทันที (ถ้าไม่ได้ setไว้ให้ใช้ไดหลายเครื่อง)

สรุป

     ถือเป็น Tools ที่ดีตัวหนึ่งครับ ถึงแม้จะยังไม่ได้ลองกับ Device/Sensor แบบอื่นๆ (ที่ยังมีอีกเยอะ) แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ค่อนข้างง่ายมากๆเลยทีเดียว สำหรับ Free Version ตัวนี้ นับว่าเหมาะมาก มีฟังก์ชั่นพื้นฐานครบถ้วน สำหรับ Network Monitor Tool ควรจะมี สำหรับ Home Network ที่มีอุปกรณ์ไม่มาก อย่างน้อย ก็จะได้รู้ว่าInternet Hi-speed ที่เราๆใช้กันอยู่ มันวิ่งได้เร็วแค่ไหน หลุดบ่อยแค่ไหน ดูย้อนหลังได้อีก อย่างนี้ไม่ให้เรียกว่าคุ้ม ก็ไม่รู้ว่ายังไงแล้วครับ อยากได้เน็ต เม็ก ไม่คิดเพิ่มจังเลย
(ที่มา http://updated4you.blogspot.com/2010/08/prtg-network-monitor.html)